SCG ปรับแผนรับ Recession จับตา 3 ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย

เอสซีจี ดูเศรษฐกิจโลกรวมทั้งอาเซียน พบเจอหลายสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง จากเงินเฟ้อรวมทั้งดอกสูง ระหว่างที่เศรษฐกิจไทยมีทิศทางฟื้น แต่ว่าจำต้องจับตา สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง ทุนพลังงานสูง ภัยแล้ง ฝุ่นละออง PM2.5 คาดวัตถุประสงค์เติบโต 10% ปีนี้เกิดเรื่องอ่อนเพลีย เปิดเผยไตรมาส รายได้ 1.2 แสนล้าน ติดลบ 16%

ข่าว เศรษฐกิจโลกที่ไปสู่ภาวะถดถอย หรือ Economic Recession มีผลกระทบต่อธุรกิจทั่วทั้งโลก ซึ่งมีผลต่อดีมานด์ในตลาดโลก และก็มีผลต่อธุรกิจที่มีรูปร่างรายได้จากต่างแดนสูง นายก้าวหน้า รังสิโยความสว่าง กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี บอกว่า ไตรมาส ปี 2566 เศรษฐกิจอาเซียนที่คาดว่าจะฟื้นเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจโลก แต่ว่าเป็นการฟื้นที่ไม่กระจ่างด้วยเหตุว่ายังมีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสภาวะเงินเฟ้อรวมทั้งอัตราค่าดอกเบี้ยสูง ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์บางประเทศ ช่วงเวลาเดียวกันเศรษฐกิจหลักของโลกอย่างสหรัฐรวมทั้งยุโรปยังบอบบาง รวมทั้งจำเป็นต้องจับตาว่ามีการเสี่ยงที่จะไปสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือลดน้อย เพราะว่าจะต้องพบเจอวิกฤติเงินเฟ้อ อัตราค่าดอกเบี้ยสูงแล้วก็ความปั่นป่วนของราคาพลังงาน ส่วนเศรษฐกิจไทยต้นปี 2566 มีสัญญาณบวกแล้วก็ฟื้นก้าวหน้าจากภาคการท่องเที่ยวที่กลับมามีชีวิตชีวา ทำให้ตลาดก่อสร้างในประเทศขยายตัว มีความต้องการปูนซีเมนต์ วัสดุที่ใช้สำหรับก่อสร้าง แล้วก็บรรจุภัณฑ์มากขึ้น แม้กระนั้นมี สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงหลักที่จำเป็นต้องเฝ้าระวังสำหรับเศรษฐกิจไทย ตัวอย่างเช่น
1.
ความผันแปรของราคาพลังงาน ค่าไฟ ก๊าซแล้วก็ถ่านหิน ซึ่งผลพวงระยะสั้นจะมีผลให้ธุรกิจมีต้นทุนการสร้างสูงมากขึ้น รวมทั้งดันให้ทุนค่ายังชีพเพิ่ม ระหว่างที่ระยะยาวจะตัดทอนความรู้ความเข้าใจการประลองสำหรับในการส่งออกไปตลาดต่างแดนเมื่อเปรียบเทียบประเทศเพื่อบ้าน
2.
การเสี่ยงภัยแล้ง โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.คาดว่าปี 2566-2567 จะเข้าสู่ตอนเอลนีโญ อาจมีฝนน้อยกว่าธรรมดารวมทั้งฝนขาดช่วงเยอะขึ้นเรื่อยๆ เสี่ยงกำเนิดภัยแล้งร้ายแรงผ่านปี ซึ่งบางทีอาจกระทบพสกนิกร การสร้างภาคอุตสาหกรรมรวมทั้งการกสิกรรม ในระยะ 2-3 ปี ที่จะกระทบเศรษฐกิจประเทศ
3.
เหตุการณ์ฝุ่นผง PM2.5 ที่ยังสูงเกินมาตรฐานแล้วก็ปกคลุมหลายเมืองเศรษฐกิจรวมทั้งท่องที่ยวเป็นระยะเวลานาน ซึ่งกระทบสุขภาพแล้วก็คุณภาพชีวิต รวมทั้งส่งผลกระทบในการตัดสินใจมาท่องเที่ยวไทย

SCG ปรับแผนรับ Recession จับตา 3 ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย

การเตรียมจัดการกับปัญหาดังที่กล่าวมาข้างต้นก็เลยเกิดเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องด้วยกันหาทางออกเพื่อลดผลพวงต่อคุณภาพชีวิตพลเมือง 

รักษาความรู้ความเข้าใจสำหรับในการแข่งของประเทศ และก็ให้มีการเติบโตเศรษฐกิจโดยตลอดเป้ารายได้โต 10% ไม่ง่ายแล้ว สำหรับสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจดังที่กล่าวถึงแล้วทำให้เอสซีจี รีบปรับพฤติกรรมให้ทันสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยน แม้กระนั้นคาดว่าป้าหมายรายได้มากขึ้น 10% ในปีนี้ไม่ง่ายนัก โดยอาจมีการใคร่ครวญจุดมุ่งหมายอีกรอบข้างหลังผ่านครึ่งปีแรก ซึ่งในปี 2565 มีรายได้ 569,609 ล้านบาท ส่วนผลประกอบกาไตรมาส ปี 2566 มีรายได้ 128,748 ล้านบาท มากขึ้นจากไตรมาสก่อน5% มากขึ้นทุกธุรกิจ ข่าวเศรษฐกิจ แต่ว่าน้อยลง 16% เมื่อเทียบเคียงตอนเดียวกันปีกลายหน้า โดยธุรกิจมีผลกำไร 16,526 ล้านบาท มากขึ้น 87% จากปีกลาย เนื่องจากเป็นการรวมผลกำไรจากการปรับราคาชอบธรรมของเงินทุนสำหรับการรวมกิจการค้า SCGJWD Logistics ปริมาณ 11,956 ล้านบาท ในช่วงเวลาที่ผลกำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษอยู่ที่ 4,516 ล้านบาท น้อยลงจากตอนเดียวกันปีกลายหน้า 42% ด้วยปัจจัยหลักมาจากยอดจำหน่ายธุรกิจเคมิคอลส์ลดน้อยลง รวมถึงทุนพลังงานมากขึ้น ดังนี้เสถียรภาพทางด้านการเงินของเอสซีจียังแข็งแกร่งมีกระแสการเงินสด 94,100 ล้านบาท ธุรกิจเคมิคอลส์ปี 2566 เป็นตอนวัฏจักรขาลง โดยนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคาดว่าปีนี้ใกล้จะถึงจุดต่ำสุด ซึ่งจำนวนมากใช้เวลา 2-3 ปี ก็เลยจะมีลัษณะทิศทางดียิ่งขึ้น แต่ว่าคราวนี้ต่างไปเนื่องจากเดิมคาดว่าปิโตรเคมีกำลังจะถึงจุดต่ำสุดในปี 2563 แม้กระนั้นมีวัววิดทำให้เงินลงทุนพลังงาน ราคาน้ำมันและก็ก๊าซถูกลงมาก ทั้งยังความอยากได้ผลิตภัณฑ์พลาสติกและก็แพคเกจจิ้งมากขึ้น จุดต่ำสุดก็เลยขยับรวมทั้งมีผลในปีนี้ ในที่สุดแล้วการจะกลับไปฟื้นอีกทีจะต้องใช้เวลาสำหรับตอนไตรมาส ปีนี้ เห็นว่าจะไม่ต่างอะไรจากไตรมาส เท่าไรนัก เป็นยังมีต้นเหตุการเสี่ยงที่จำเป็นต้องจับตา แม้กระนั้นคาดว่าทุนพลังงานมีทิศทางลดน้อยลง

แนะนำข่าวเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : จับตาส่งออกข้าวไทย-เวียดนาม ระอุ ยอดส่งออกไตรมาสแรกเบียดสูสี

You may also like...