ฟัง 2 มุม ดราม่า “แบกเป็ดยางขึ้นโรงพัก” สุดท้ายตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย

ดราม่าลูกค้าพูลวิลล่า ลงทุนหาม “เป็ดยาง” ขึ้นสถานีตำรวจ ข้างหลังถูกผู้ครอบครองพูลวิลล่าเรียกค่าเสียหายทำรั่ว 700 บาท ในที่สุดตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย จนถึงจบด้วยดีทั้งสองฝ่าย

ดราม่าลูกค้าพูลวิลล่า ลงทุนแบก “เป็ดยาง” ขึ้นโรงพัก ด้านหลังถูกผู้ครอบครองพูลวิลล่าเรียกร้องค่าเสียหายทำรั่ว 700 บาท ท้ายที่สุดตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย จนกระทั่งจบด้วยดีทั้งสองฝ่าย แปลงเป็นดราม่าที่ถูกกล่าวถึงในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ได้โพสคลิปขณะกำลังแบกเป็ดยางขึ้นไปบนสถานีตำรวจภูธรลาดต้นหญ้า พร้อมเล่าเหตุภายในคลิปว่า พวกตนได้เดินทางมาพักที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี แม้กระนั้นหลังจากกำลังจะเดินทางกลับนั้น ปรากฏว่าผู้ครอบครองพูลวิลล่า เรียกเก็บเงินค่าทำขวัญ จำนวน 700 บาท โดยพูดว่า “เป็นค่าชดเชยที่ทำเป็ดยางรั่ว แต่ทางกลุ่มลูกค้ารับรองว่า ไม่ได้เป็นคนทำให้เป็ดยางรั่ว และในคลิปก็ยังเห็นเป็ดยางใช้งานได้ปกติ เมื่อตกลงกันไม่ได้ ทางกลุ่มลูกค้าก็เลยนำเอาเป็ดยางดังกล่าวมาที่สถานีตำรวจภูธรลาดต้นหญ้า เพื่อตำรวจช่วยเป็นตัวกลางสำหรับในการวิเคราะห์” ปัจจุบันนี้ วันที่ 16 เม.ย. 2566 พันตำรวจเอกเตเคยชินท์ บรรจง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรลาดต้นหญ้า ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า เรื่องราวที่ปรากฏในคลิปเป็นเหตุที่เกิดขึ้นจริง โดยกลุ่มลูกค้าได้แบกเป็ดยางสีขาวขึ้นมาบนสถานีตำรวจ พร้อมเล่าสถานะการณ์ให้ฟัง ก่อนจะทางตำรวจจะได้เรียกผู้ครอบครองพูลวิลล่าดังที่กล่าวมาแล้ว มาคุยตกลงกัน โดยทางผู้ครอบครองพูลวิลล่าเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 700 บาท แต่ทางลูกค้าไม่ยินยอม โดยอ้างถึงว่าไม่ได้เป็นคนทำเป็ดยางรั่ว ดังต่อไปนี้ เมื่อมีการไถ่ถามในช่วงวันที่กลุ่มลูกค้าเข้าพักนั้น ปรากฏว่าไม่ได้มีการตรวจเช็กเป็ดยางตัวดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นก่อนเข้าพักว่ารั่วหรือไม่ ด้วยเหตุดังกล่าว ก็เลยไม่อาจจะพิสูจน์ได้ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นคนทำรั่ว ท้ายที่สุดทางผู้ครอบครองพูลวิลล่าก็เลยตกลงไม่เรียกร้องค่าเสียหาย และทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกันเดินทางกลับสุดท้าย ฟัง 2 มุม ดราม่า หามเป็ดยางขึ้นสถานีตำรวจ ท้ายที่สุดตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย จากการตรวจสอบพบว่า ช่วงวันที่ 15 เม.ย. 2566 เวลาราว11.30 น.

ฟัง 2 มุม ดราม่า แบกเป็ดยางขึ้นโรงพัก สุดท้ายตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย

คู่แค้นทั้งสองฝ่ายหมายคือข้างผู้ครอบครองรีสอร์ตพูลวิลล่าแห่งหนึ่งทางบ้านท่ามะนาว แล้วหลังจากนั้นก็อีกข้างหนึ่งเป็นคู่กรณีที่เป็นผู้ที่มาใช้บริการ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ. ลาดต้นหญ้า โดยข้างผู้ครอบครองพูลวิลล่าแจ้งว่า

ก่อนเข้าพักได้ให้ผู้รับบริการเซ็นสัญญาเงินมัดจำบ้าน แล้วก็รับผิดชอบหากว่าทรัพย์สินเสียหาย ส่วนทางผู้รับบริการแจ้งว่า ก่อนเข้าพักทางพูลวิลล่าไม่ได้ให้มีการตรวจดูเงินก่อนเข้าพัก มีแม้กระนั้นเจ้าหน้าที่นำเอาเอกสารมาให้เซ็นว่าเป็นค่าเงินเงินมัดจำ ไม่มีการแจ้งเรื่องความรับผิดชอบ ในเรื่องที่ทรัพย์สินเสียหาย หลังจากที่ได้มีการใช้บริการเข้าพักเสร็จ ผู้ครอบครองพูลวิลล่าตรวจสอบพบว่า มีห่วงยางเป็ด (จุดที่รั่วเป็นศูนย์กลางเบาะนั่ง ส่วนตัวเป็ดไม่รั่ว) คิดราคา 700 บาท ภายหลังที่ฟังความทั้งสองฝ่ายแล้ว พนักงานที่ทำหน้าที่สอบสวนได้ไกล่เกลี่ยจนกระทั่งคู่อริสามารถคุยตกลงเสวนากันได้ โดยข้างผู้ครอบครองพูลวิลล่าเห็นด้วยว่า ก่อนผู้รับบริการเข้าพักไม่ได้ให้ผู้รับบริการพินิจพิเคราะห์เงินเสียก่อน ซึ่งเป็นความผิดพลาดของทางพูลวิลล่าด้วยส่วนหนึ่งส่วนใด และกรณีดังที่กล่าวถึงแล้วไม่สามารถตรึกตรองได้ว่า ห่วงยางเป็ดดังที่พูดมาแล้วข้างต้นมีการรั่วก่อนหรือหลังจากที่มีการเข้าพัก ตอนที่ทางผู้ครอบครองพูลวิลล่า เห็นด้วยที่จะเป็นผู้รับผิดชอบส่วนนี้เอง และก็ในคราวต่อไปถ้าเกิดมีผู้เข้าพักจะได้เช็กตรวจตราทรัพย์สินก่อนเข้าพักทุกหน หากแม้ พนักงานสอบสวนในคดีนี้ได้พูดถึงคดีนี้ว่า เรื่องเป็ดยางรั่ว ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างให้กับนักทัศนาจรที่เข้าใช้บริการพักในบ้านพักพูลวิลล่าต่างๆได้นำไปเป็นบทเรียนต่อไปว่า ก่อนเข้าพักน่าจะพินิจพิจารณาเครื่องใช้ไม้สอย หรือเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆให้เรียบร้อยก่อน เพื่อไม่ให้กำเนิดปัญหาในหลังจากนั้นส่งกลับแก่เจ้าของที่พัก หรือทางเจ้าของที่พักก็จำเป็นที่จะต้องตรวจดูอุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ให้ครบบริบรูณ์ ก่อนมอบแก่ผู้มาใช้บริการ เพื่อจะได้ไม่ให้กำเนิดปัญหาในเรื่องที่ผู้มาใช้บริการทำให้เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์เครื่องเล่นเครื่องใช้ต่างๆเกิดความชำรุดทรุดโทรม ทางผู้ครอบครองทรัพย์สินก็จะสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้แบบเดียวกัน จะได้ไม่ต้องนำเป็ดยางมาที่โรงพักเหมือนในตอนนี้.

แนะนำข่าวสังคม อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : แพทย์เตือน อันตรายด้ายสายสิญจน์ผูกพวงมาลัยรถ อาจเป็นสาเหตุเกิดอุบัติเหตุ

You may also like...