เมื่อทั้งหมดทุกอย่าง “แพง” รายได้เหมือนเดิม แม้กระนั้นรายการจ่ายมากเพิ่มขึ้น อะไรที่ทำให้มีความรู้สึกว่าของแพงมากเพิ่มขึ้น และก็รู้สึกว่ารัฐบาลจะไขปัญหานี้ได้หรือเปล่า
ท่ามกลางสภาวะเงินเฟ้อแล้วก็ผลิตภัณฑ์แพง นำมาซึ่งการทำให้ชาวไทยจะต้องแบกรับภาระรายจ่ายมากขึ้น เนื่องมาจากรายได้ ค่าใช้จ่ายไม่เกี่ยวข้องกัน แล้วก็จากการเปิดรับสมัครสมาชิก “บัตรผลประโยชน์ที่เมือง” หรือ “บัตรคนยากจน” รอบใหม่ในปี 2565 พบว่า “คนยากจน” ในประเทศไทยเพิ่มเป็น “20 ล้านคน” หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของสามัญชนทั้งปวง ทำให้หลายข้างมีความไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ความแตกต่างทางด้านสังคม และก็เห็นว่า รัฐบาลจะปรับปรุงแก้ไขเรื่องคนยากจนมิได้ ( 77.32%) รวมทั้งเรื่องของแพงเช่นเดียวกัน เห็นว่าปรับปรุงมิได้ 59.23%
อะไรที่ทำให้ “มีความรู้สึกว่าแพงขึ้น”
อันดับ 1 ค่าน้ำประปามัน ค่าพาหนะ 82.96%
อันดับ 2 ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า 71.19%
อันดับ 3 แก๊สเหลว 66.38%
อันดับ 4 อาหารจานเดียว อาหารตามสั่ง 53.67%
อันดับ 5 วัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร 52.64%
จากที่กล่าววมา พลเมืองคิดยังไงกับกรณี “คนยากจน” ในประเทศไทยเพิ่มเป็น “20 ล้านคน” หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของพลเมืองทั้งปวง
อันดับ 1 ของแพงทำให้คนมีสตางค์ไม่เพียงพอใช้ 80.38%
อันดับ 2 คนไม่มีงานทำเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีรายได้ 74.72%
อันดับ 3 เงินปริมาณเหมือนเดิม จับจ่ายซื้อของได้ลดน้อยลง 70.47%
อันดับ 4 คนติดหนี้ติดสินมากขึ้น 67.64%
อันดับ 5 เศรษฐกิจไม่ดีเป็นระยะเวลานาน 65.57%
พลเมืองต้องการให้รัฐบาลจัดการยังไงเพื่อช่วยเหลือกรณีของแพง
อันดับ 1 คุมราคาผลิตภัณฑ์ ลดผลิตภัณฑ์ 85.73%
อันดับ 2 ลดภาษีน้ำมัน 68.43%
อันดับ 3 พรีเซนเทชั่นข้อมูลเรื่องจริง ไม่ปกปิด 56.52%
อันดับ 4 จัดโครงงานผลิตภัณฑ์ราคาไม่แพงช่วยเหลือราษฎร 54.35%
อันดับ 5 รีบออกมาตรการช่วยเหลือ ได้แก่ คนละครึ่ง ช่วยค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า 52.36%
ราษฎรอยากที่จะให้รัฐบาลทำงานยังไงเพื่อช่วยเหลือกรณี “คนยากจน”
อันดับ 1 สร้างจังหวะ สร้างรายได้ ย้ำการพึ่งพาตัวเองได้ในระยะยาว 78.32%
อันดับ 2 ขจัดปัญหาอย่างเอาจริงเอาจังแล้วก็ตลอด 77.19%
อันดับ 3 เห็นด้วยและก็หาสาเหตุของปัญหาที่จริงจริง 66.54%
อันดับ 4 ทุกภาคส่วนร่วมมือกันจัดการกับปัญหา 63.15%
อันดับ 5 เพิ่มผลประโยชน์ช่วยเหลือดูแลด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ 59.10%
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิตต์บริสุทธิ์ เหมือนสุบรรณ คุณครูประจำคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เอ๋ยถึงผลที่เกิดขึ้นจากการสำรวจว่า ในตอนนี้พสกนิกรได้รับผลพวงจากเหตุการณ์วัววิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเศรษฐกิจแล้วก็การจ้างแรงงาน ทำให้คนว่างงานเพิ่มมากขึ้น ไม่มีรายได้ หรือบางบุคคลถูกหักเงินเดือน ก็เลยนำมาซึ่งการทำให้คนมีรายได้น้อยเกินไปต่อรายการจ่ายของค่ายังชีพในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็ซึ่งก็คือมีปริมาณคนยากจนมากขึ้นเรื่อยๆนั้นเอง เมื่อ “รายได้ลดลง” แม้กระนั้น “ของแพงขึ้น” ก็เลยทำให้เงินที่มีอยู่น้อยเกินไปสำหรับในการเลี้ยงปาก ท้องในทุกวัน จากปัญหาถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือค่ายังชีพของประชากรอยู่หลายแผนการ ซึ่งเป็นการจัดการกับปัญหาระยะสั้น ฉะนั้นการแก้ปัญหาระยะยาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งคิดแผนสำหรับเพื่อการแก้ปัญหาเชิงองค์ประกอบทั้งยังระบบเกิดเรื่องที่ท้า
รัฐบาลชุดนี้เพื่อเป็นผลอย่างเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน โดยสิ่งจำเป็นจึงควรปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอโดยมีการเปลี่ยนแปลงกลไกรวมทั้งกรรมวิธีการสำหรับเพื่อการแก้ปัญหาให้ใส่รับกับบริบททางด้านเศรษฐกิจแล้วก็สังคมในขณะนี้ สำหรับความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่ว่า “30เดือนกันยายน 2565 คนยากจนจะหมดไป”ในวันนี้ก็ยังมองไม่เห็นผลที่แจ่มกระจ่าง ก็เลยเกิดเรื่องที่จะต้องหาแนวทางการแก้กระทั่งกันถัดไป