by InfoQuest – ดรรชนีดาวโจนส์กลับดีดตัวสู่ดินแดนบวก ท่ามกลางการค้าขายที่ปั่นป่วน ในตอนที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทลงทะเบียน และก็แนวทางอัตราค่าดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ข่าว บรรยากาศการค้าขายถูกบีบคั้น ท่ามกลางความไม่สบายใจเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจลดน้อย แล้วก็ผลประกอบการที่ซบเซา ดังนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 6 เดือน ดีดตัวเหนือระดับ 5% ในตอนที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งมีความหวั่นไหวต่อแนวนโยบายการคลังของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับนิสัยขึ้นเหนือ 4% รวมทั้งอยู่สูงขึ้นมากยิ่งกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีรวมทั้ง 30 ปี ก่อนหน้านี้ สภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และก็เข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความหนักใจเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยนักลงทุนกลุ้มใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลพวงจากการที่เฟดรีบปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นายคริส วัตลิง ประธานข้าราชการบริหารของ Longview Economics ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงิน กล่าวว่า ข่าวการเงิน จำนวนเศรษฐกิจปัจจุบันชี้ว่าสหรัฐใกล้ที่จะพบเจอภาวะเศรษฐกิจลดน้อย และก็นักลงทุนจำเป็นต้องเตรียมรับมือผลพวงจากการตรงลงของตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้ ดรรชนี LEI นับว่าเป็นสิ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคำนวณจากจำนวนเศรษฐกิจ 10 รายการ ซึ่งรวมทั้งราคาหุ้น คำบัญชาซื้อใหม่ของภาคการสร้าง การอนุญาตก่อสร้างบ้าน จำนวนผู้ขอรับผลประโยชน์ไม่มีงานทำ รวมทั้งความมั่นใจผู้ใช้ ยิ่งไปกว่านี้ นายวัตลิงบอกว่า การที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ก็เป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจลดน้อย นายวัตลิงเผยออกมาว่า โดยธรรมดา เศรษฐกิจลดน้อยจะเกิดขึ้น ข้างหลังเกิดภาวะ inverted yield curve ราว 1 ปี โดยตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve คราวแรกในเดือนมี.ค.2565 แล้วก็เกิดขึ้นอีกหลายทีในนับเป็นเวลาหลายเดือนถัดมา
แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ซีอีโอเจพีมอร์แกนเตือนนักลงทุน-ภาคธุรกิจรับมือผลกระทบดอกเบี้ยขาขึ้น
